วิธีรับมือกับอาการหลัก ๆ ที่พบเจอบ่อยสำหรับคุณแม่ท้องแรก มีหลากหลายวิธีขึ้นอยู่กับปัญหาที่พบเจอของช่วงนั้น ๆ แต่วันนี้โคโคโร่ โตเกียว ขอแนะนำวิธีรับมือบางส่วนสำหรับคุณแม่มือใหม่ มีอะไรบ้างไปดูกันค่ะ 😉
ปัญหาจากการตั้งครรภ์
👉 เจ็บคัดตึงเต้านม
เจ็บคัดตึงเต้านมถือเป็นสัญญาณอย่างหนึ่งในช่วงแรก ๆ ของการตั้งครรภ์ ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ซึ่งจะเป็นการเตรียมท่อน้ำนมสำหรับให้นมลูก อาจมีอาการตลอดช่วงระยะเวลาของไตรมาสแรก การใส่ยกทรงที่มีขนาดใหญ่ขึ้นจะช่วยให้คุณแม่รู้สึกสบายตัวมากขึ้นค่ะ
👉 อาการแพ้ท้อง
สำหรับคุณแม่ท่านใดที่มีอาการมึนหัว โดยเฉพาะช่วงเช้าหลังตื่นนอน สามารถบรรเทาอาการนี้ได้โดยหาขนมปังหรือบิสกิต (ถ้าเป็นรสขิงได้จะยิ่งดี) ไว้ที่หัวเตียง เวลาตื่นนอนใหม่ ๆ ยังไม่ต้องลุกนะคะ ให้คว้าของกินที่เตรียมไว้บริเวณหัวเตียงมากินก่อน สักพักนึงค่อยลุกขึ้นเดิน จะช่วยบรรเทาอาการมึนหัวได้ เพราะขนมปังหรือบิสกิตจะช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดให้สูงขึ้น เราหลับไปทั้งคืนอาหารมื้อสุดท้ายก็ย่อยหมดแล้ว น้ำตาลเลยต่ำตอนเช้านั่นเอง
👉 แตกลาย
รอยแตกลายเกิดจากการที่ผิวของคุณแม่ตั้งครรภ์ตึงและยืดหยุ่นเร็วเกินไป และไม่ใช่กับคุณแม่ตั้งครรภ์เท่านั้นที่มีรอยแตกลาย คนที่มีน้ำหนักตัวมาก ๆ เวลาผอมลงก็มีผิวแตกเหมือนกัน ลักษณะการแตกของผิวจะเป็นเหมือนรอยปริ สีของรอยแตกลายจะไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับสีผิวของคุณแม่ หลังจากคลอดลูกแล้วคุณแม่ที่ผิวขาวรอยแตกจะเป็นสีออกชมพูหรือเป็นเกือบจะเป็นสีเดียวกับผิวคุณแม่ แต่คุณแม่ที่มีสีผิวคล้ำผิวที่แตกจะหดตัวลงออกเป็นสีคล้ำ หรือเป็นสีน้ำตาลนั้นเองค่ะ
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดรอยแตกลายขณะตั้งครรภ์
1) ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเตรียมความพร้อม เพิ่มความแข็งแรงและยืดหยุ่นของผิวหนัง
2) รับประทานอาหารที่มีส่วนช่วยในการดูแลผิว เช่น มะเขือเทศ ส้ม แครอท โยเกิร์ต ถั่ว หรือแม้แต่การดื่มน้ำสะอาดในปริมาณที่เพียงพอ
3) พยายามอย่าให้น้ำหนักตัวเพิ่มเร็วจนเกินไป ควรเพิ่มประมาณเดือนละ 2 กิโลกรัม เพื่อเป็นการปรับสภาพหน้าท้องให้ค่อย ๆ ยืดขยายออก
4) หากท้องโตมากควรนอนตะแคง โดยใช้หมอนรองรับหน้าท้องไว้ วิธีนี้จะช่วยลดปัญหาท้องลายให้ลดลง
5) ห้ามเกาเด็ดขาด!!!! เพราะการเกาจะไปกระตุ้นให้คอลลาเจนใต้ผิวหนังเกิดรอยแตกมากขึ้น
6) ไม่ควรอาบน้ำอุ่นที่อุ่นจัดจนเกินไป จะทำให้ผิวหนังแห้ง และขาดความชุ่มชื้นโดยเฉพาะคุณแม่ที่มีผิวแห้งเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจะยิ่งทำให้ผิวหนังแห้งมากขึ้น
7) ทาครีมบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ เพราะการทาครีมบำรุงผิวเป็นประจำจะช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นและยืดหยุ่น เป็นการเตรียมความพร้อมของผิวให้สามารถรับมือกับการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของลูกน้อยในครรภ์ได้ดีขึ้น โดยควรเริ่มตั้งแต่เมื่อทราบว่าตั้งครรภ์ คุณแม่ควรเลือกครีมหรือโลชั่นชนิดที่มีเนื้อข้น เพราะสามารถเก็บความชุ่มชื้นได้ดีกว่าและนานกว่า และต้องปลอดภัยต่อคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์
การทาครีมในช่วงนี้จะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไม่ให้ระเหยออกไป และควรหมั่นทาต่อเนื่องระหว่างวันเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวตลอดเวลา โดยควรเพิ่มปริมาณเนื้อครีมให้มากขึ้นตามอายุครรภ์ที่เพิ่มขึ้นด้วย และแนะนำทาครีมต่อเนื่องจนกระทั่งหลังคลอดเพราะผิวต้องรับภาระหดตัวกลับคืนสู่สภาวะปกติ
👉 มือบวม เท้าบวม
อาการบวมเป็นปฏิกิริยาทางธรรมชาติที่ร่างกายของเรากักเก็บน้ำในเนื้อเยื่อ ทำให้มีปริมาณของเหลวในร่างกายเพิ่มขึ้น อีกทั้งสารเคมีในกระแสเลือดที่เปลี่ยนไปก็ทำให้ร่างกายดูดซึมของเหลวในปริมาณที่มากขึ้นเช่นกัน
วิธีลดอาการบวม
คุณแม่ควรพยายามนอนตะแคง และยกปลายเท้าให้สูงขึ้นในเวลานอน หรือหากไม่สามารถนอนได้ ก็สามารถเปลี่ยนอิริยาบถบ่อย ๆ เพื่อให้เกิดการเคลื่อนไหวของร่างกาย และไม่ได้ทำให้เกิดการกดทับของมดลูก เพื่อให้ระบบไหลเวียนเลือดในร่างกายเป็นไปโดยสะดวก
โดยส่วนอาการมือบวมนั้น ไม่ได้เกิดจากขนาดของมดลูกไปกดทับเส้นเลือดแต่อย่างใด ซึ่งคุณแม่ตั้งครรภ์จะทำท่าทางแบบใดก็จะมีอาการบวม เพราะสาเหตุของอาการนิ้วบวมเกิดขึ้นจากเนื้อเยื่อมีการดูดน้ำและกักเก็บน้ำไว้ในร่างกาย หรือกักเก็บน้ำไว้ภายในเนื้อเยื่อมากขึ้น
ข้อมูลอ้างอิง
https://www.maerakluke.com/topics/1556 https://th.theasianparent.com/อาการยอดฮิตเมื่อตั้งครรภ์ไตรมาสแรก-อาการคนท้องไตรมาสแรก/
https://www.phyathai.com/article_detail/1937/th/มือบวม_เท้าบวมขณะตั้งครรภ์_เกิดจากเหตุใด